การบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย มักเป็นเรื่องยากเสมอ สำหรับคนที่ไม่ชอบวิ่งจ๊อกกิ้ง ไม่ชอบปั่นจักรยาน หรือไม่ชอบเล่นกีฬาใด ๆ รวมไปถึงการเข้าฟิตเนส
ทางเลือกของคนในกลุ่มนี้ จึงมักเน้นไปที่การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เป็นรูปแบบของกีฬาที่ชัดเจน บางคนอาจเลือกทำงานบ้าน ล้างรถ ปลูกต้นไม้ หรือจัดสวนแทน เพื่อให้ร่างกายได้มีโอกาสขยับเขยื้อน ใช้พลังงานในระยะเวลาที่มากพอที่จะเบิร์นไขมันในร่างกายออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหวังได้สุขภาพที่ดีคืนกลับมา ขณะที่คนอีกไม่น้อยหันมาเลือกฝึกโยคะ เพื่อสร้างสุขภาพดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
โยคะ ..สร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ
การเล่นโยคะ มีหัวใจสำคัญที่ การฝึกยืด – เหยียด กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยใช้จังหวะของลมหายใจเป็นตัวกำหนด
ในช่วงก่อนเริ่มคลาสโยคะ จะมีการฝึกลมหายใจเข้าให้ลึก และหายใจออกให้ยาว ให้ผู้ฝึกผ่อนคลายและปล่อยวางกับความคิด ความกังวล หรือภาระหนัก ๆ ที่แบกไว้ ซึ่งเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง
ในช่วงการฝึกท่วงท่าต่าง ๆ จะเน้นไปที่เน้นการยืด – เหยียดอย่างเต็มที่ของกล้ามเนื้อทุกส่วนเพื่อให้เกิดความแข็งแรง และลดอาการเจ็บปวดจากอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องในการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยท่วงท่าต่าง ๆ เรียกว่าเป็น อาสนะ (Asanas) จะต้องใช้ลมหายใจเป็นตัวกำกับจังหวะ เช่น ในท่าแมวและวัว (Cat & Cow) ที่ต้องวางมือและขาให้แน่นเหมือนกับขาทั้ง 4 ของสัตว์ชนิดนี้ แล้วให้จังหวะการสูดลมหายใจเข้า เป็นตัวบังคับให้โก่งแผ่นหลังขึ้นให้สูง และดึงหน้าท้องขึ้นไปให้ติดกระดูกสันหลังให้มากที่สุด พร้อมก้มหน้าต่ำ ส่วนจังหวะการปล่อยลมหายใจออก ก็ต้องแอ่นหลังให้โค้งที่สุดและกดหน้าท้องลงให้ต่ำ พร้อมเงยหน้าขึ้นให้สูง
บางอาสนะที่ต้องฝืนยืดกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ จะต้องใช้พลังจากลมหายใจเข้าช่วย โดยเฉพาะจังหวะลมหายใจออกนั้น จะพบว่ามีพลังช่วยดันหรือฝืนให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายสามารถยืดยาวได้มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ตลอดเวลาราว ๆ หนึ่งชั่วโมงของการฝีกโยคะทั่วไป จะพบว่า ร่างกายมีการเผาผลาญแคลอรีจากการเหยียดเกร็งจนทำให้เหงื่อท่วมตัวได้แม้จะเล่นในห้องปรับอากาศ และหลังฝึกท่าต่าง ๆ ครบถ้วน จะมีอาสนะสุดท้ายให้ผ่อนคลายร่างกายคือ อาสนะศพ (Savasana) โดยให้ผู้ฝึกนอนนิ่ง ๆ พร้อมหลับตา เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ซึ่งหลายคนอาจถึงกับหลับได้ ในอาสนะนี้เลยทีเดียว
หลังจบคลาสโยคะในแต่ละครั้ง นอกจากความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าไม่ต่างกับความรู้สึกหลังการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทั่วไปแล้ว ผู้ฝึกโยคะยังได้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เบาสบาย จากใจที่ปล่อยวางและเป็นสมาธิตลอดช่วงของการฝึกอีกด้วย
นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนทั่วโลกต่างหลงใหลในเสน่ห์ของโยคะ ที่ให้ผลดีเรื่องความแข็งแรงและสดชื่นทั้งร่างกายและจิตใจ