กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษจริงหรือ ?

ความไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐ แม้จะมีเงินทองมากมายมหาศาลเพียงใดก็ไม่อาจซื้อสุขภาพดีให้อยู่กับเราได้อย่างถาวร แต่เชื่อหรือไม่ว่า สุขภาพดีนั้นเราทุกคนสามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเราเอง อาจเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมหลายประการอันเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ อีกทั้งโรคระบาดร้ายแรงมากมายหลายชนิดที่ยากจะหาวัคซีนหรือหยูกยามารักษาป้องกัน ยิ่งช่วงวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้เราตระหนักถึงการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และหันมาใส่ใจเรื่องของการรักษาความสะอาด และหาแนวทางสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

ชวนให้นึกย้อนถึงภาพการออกกำลังกายที่หน้าเสาธงในโรงเรียนประถมศึกษา …กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน วรรคทองเพลง กราวกีฬา ซึ่งประพันธ์คำร้องโดย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ที่พวกเราจดจำได้อย่างขึ้นใจ

ในปัจจุบันคนไทยเริ่มใส่ใจการออกกำลังกายมากขึ้น เห็นได้จากกิจกรรมมากมายที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยม เช่น กิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ว่ายน้ำ ฯลฯ รวมถึงสถานที่ออกกำลังกายซึ่งทยอยเปิดตัว เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์หนุ่มสาวชาวออฟฟิศและผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่จัดสรรเวลาว่างชวนกันมาออกกำลังเพื่อสุขภาพดีกันอย่างถ้วนหน้า ควบคู่ไปกับเสริมสร้างความสามัคคีขึ้นภายในองค์กร เพราะทุกคนเชื่อว่า การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ คือยาอายุวัฒนะ ซึ่งก็สอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลก ที่รณรงค์ส่งเสริมให้ชาวโลกลุกขึ้นมาออกกำลังอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉลี่ยควรออกกำลังกายให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์หากเป็นแบบไม่ใช้แรงมาก เช่น การเดิน การเดินเร็ว แต่ถ้าเป็นกีฬาที่ใช้แรงมาก เช่น เทนนิส ฟุตบอล วิ่ง ก็ออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 75 นาที เป็นต้น ต้องดูสถิติจะพบว่า ไม่ว่านักกีฬาบาสเกตบอล กรีฑา วอลเล่ กีกลุ่มฟุตบอลซึ่งมีแฟนคลับเยอะสุด นักกีฬาส่วนใหญ่แทบจะไม่มีอาการป่วยเรื่อยสุขภาพเลย ลองเปลี่ยนจากการเปิดมือถือดู บ้านผลบอล ทีเด็ดบอลรายวันที่เคยทำเป็นวิ่งเป็นลู่ไฟฟ้าระหว่างดูบอลออลไลน์สิ ร่างกายเราอาจแข็งแรงขึ้นไม่น้อยหน้านักกีฬาที่ลงสนามอยู่เลยล่ะ

ดูข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ประกอบ

หากมองเหตุผลในเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ “การเล่นกีฬา” มีนัยสำคัญอยู่ที่การขยับเขยื้อนอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งการออกแรงอย่างต่อเนื่องนี้จะส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และสูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ส่งผลให้อวัยวะและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าออกกำลังกายอย่างเดียว ได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งระบบการไหลเวียนโลหิต, กระดูกและข้อต่อส่วนต่าง ๆ อีกทั้งช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย และผ่อนคลายความตึงเครียดลงได้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลบางช่วงบางตอนที่ได้อ่านพบจากงานเขียนของ ท่านอาจารย์หมอประเวศ วะสี ในนิตยสารหมอชาวบ้าน ปีที่ 18 ฉบับที่ 214 ก.พ. 2540 กล่าวไว้ว่า “ตามธรรมชาติร่างกายจะมีกลไกการหลั่งสารที่ให้ความสุขออกมาอยู่ตลอดเวลา สารสุขคือเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) …เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถทำให้เอ็นดอร์ฟิน หลั่งออกมาได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. การออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังต่อเนื่องนานพอสมควร เช่น ประมาณ 20 นาทีขึ้นไป เอ็นดอร์ฟิน จะออกมามาก ทำให้มีความสดชื่นสบายเนื้อสบายตัว…” เป็นต้น

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะชอบเล่นกีฬาแบบไหน หรือออกกำลังกายด้วยวิธีใด สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติอย่างถูกวิธีและต่อเนื่องตามความเหมาะสมของกีฬาประเภทนั้น ๆ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเปลี่ยนกีฬาให้กลายเป็นยาวิเศษได้สมความตั้งใจ