อีกไม่ถึง 3 เดือนข้างหน้ากีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2565 ที่จีนจะเป็นเจ้าภาพก็จะเริ่มขึ้น หากย้อนไปร้อยกว่าปีก่อน ในสภาพที่ประเทศจีนยังคงยากจนข้นแค้นกว่านี้ เคยมีสื่อภายในประเทศจีนตั้งคำถามขึ้นมาลอย ๆ ว่าเมื่อไรจีนจะได้จัดโอลิมปิก?
คำถามลอย ๆ ที่ถูกถามขึ้นเหมือนกับการประชดประชันผู้นำประเทศจีนเสียมากกว่าในตอนนั้น เพราะดูจากความเป็นไปได้ในยุคนั้น ไม่มีทางเลยที่จีนจะพร้อมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกไม่ว่ามองจากมุมไหน
อีกหนึ่งร้อยปีต่อมา จีนได้กลายมาเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นกีฬาโอลิมปิกที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ภาพความประทับใจในสนามแข่งขันกีฬาใหม่เอี่ยม สิ่งอำนวยความสะดวกในหมู่บ้านนักกีฬาอย่างดีและสาธารณูปโภคชั้นเลิศที่ประเทศแถบตะวันตกหลายประเทศยังอายและต้นปี พ.ศ.2565 ที่จะถึงนี้ จีนกำลังจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกอีกครั้ง แต่เป็นกีฬาโอลิมปิกในรูปแบบโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งความตั้งใจในการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ของจีนที่นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือการสานต่อความฝันในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาวให้สำเร็จ โดยใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน พัฒนาเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจ
เมืองหลายเมืองในมณฑลเหอเป่ยและเทียนจินได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้ คนในเมืองเล็ก ๆ ได้มีโอกาสทำงานในอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้านการกีฬาเช่น การทำงานในสกีรีสอร์ทที่เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
อีกสิ่งสำคัญที่จีนกำลังแสดงออกในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในครั้งนี้ก็คือ การพยายามทำตามนโยบายลดการใช้พลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดมลพิษจากการพัฒนาเมือง พัฒนาสนามกีฬา ซึ่งเป็นแนวทางร่วมกันของทั้งคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือไอโอซีและรัฐบาลจีน
การพัฒนาโดยคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่จีนกำลังทำ โดยเริ่มต้นจากแผนการทำงานการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้นั้น เป็นสิ่งที่จะถูกใช้เป็นโมเดลในการพัฒนาเมืองอื่น ๆ ของจีนต่อไป ทั้งหมดล้วนส่งผลดีต่อประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ความเจริญกำลังคืบคลานเข้าไป อย่างน้อยพวกเขาก็มั่นใจได้ว่าการพัฒนาที่รัฐบาลกำลังจะส่งเข้ามา จะไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของพวกเขา
นอกจากการพัฒนาสิ่งก่อสร้างเพื่อเตรียมรองรับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวแล้ว รัฐบาลจีนยังส่งเสริมให้ผู้คนหันมาเล่นกีฬาฤดูหนาวอย่างสกีและฮอกกี้ให้มากขึ้น เพื่อลดภาพลักษณ์ความเป็นกีฬาของคนรวยลง ทั้งยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับเยาวชนและประชาชนจีนอีกด้วย
เห็นแบบนี้ต้องบอกว่าไม่ผิดเลยที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจะยกย่องว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงต่างหากคือผู้ที่เป็นแชมป์โอลิมปิกตัวจริง